วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

บันทึกถึงใยไหม ฉบับที่ ๗ "เสียงเพลง...สายสัมพันธ์จากแม่ถึงลูก"


ใยไหมลูกรัก วันนี้แม่กลับบ้านดึกอีกแล้วค่ะ แต่ลูกแม่ก็นอนดึกเช่นกัน คุณยายบอกว่า ลูกเพิ่งตื่นนอนตอนหนึ่งทุ่มนี่เอง (แม่ทำหน้าตาตกใจ พร้อมแววตาที่อิดโรย) แล้วคืนนี้แม่จะได้นอนกี่ทุ่มกันนี่ เป็นไปดังคาดคะ ตอนนี้สี่ทุ่มจะครึ่งแล้ว ลูกของแม่ยังนั่งดู "mummy and me" พร้อมทำท่าทางตามอย่างคึกคัก ไม่มีวี่แววของคนง่วงนอนแม้แต่น้อย ส่วนแม่ของลูก ก็ต้องนั่งเป็นเพื่อนลูก ดูลูกจ้องมองดูเพื่อนในจอเล็กๆ พร้อมกระดิกเท้า และขยับมือน้อยๆของลูกตามจังหวะของเพลงดังเช่นที่เคยเป็น



ลูกจ๋า วันนี้เป็นวันแรกที่ลูกร้องเพลงเองได้จนจบเพลง ทำให้แม่ทึ่งอีกแล้วคะลูก ลูกอายุยังไม่ถึงสองขวบเลย ลูกสามารถร้องเพลงให้แม่ฟังได้แล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพลงสั้นๆ แต่ก็ทำให้แม่รู้สึกดีเป็นที่สุดคะ เพลงของลูกไม่ยากคะ แต่แม่ถามพ่ออาร์ตแล้วว่าเคยได้ยินเพลงนี้ไหม พ่ออาร์ตตอบว่า "ไม่เคยได้ยินเลย" แต่สำหรับแม่ เพลงนี้แม่ได้ยินตั้งแต่เด็กๆ ชื่อเพลงอะไรนั้นแม่ก็ลืมถามคุณยาย จำได้แต่เนื้อร้อง ที่ร้องว่า "นกเอี้ยง มาเลี้ยงควายเฒ่า ควายกินข้าว นกเอี้ยงหัวโต กิโลแปดบาท ไปขายตลาด ได้ตังค์บาทเดียว" แม่ลุ้นอยู่ว่าลูกจะพูดคำว่า "ควาย" ชัดหรือเปล่า เพราะถ้าไม่ชัดแม่คงมิอาจนำมาออกอากาศได้ เพราะพ่อของลูกคะยั้นคะยอให้แม่ถ่าย clip แล้วโหลดลงใน face book เพราะพ่ออาร์ตอยากเห็น แต่เมื่อแม่ได้ฟังแล้วก็อมยิ้มแล้วตัดสินใจว่า on air ได้จ้า



มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่า "ระหว่างที่คุณแม่ตั้งครรภ์ ควรให้คุณแม่ฟังเพลงให้มากๆ ลูกจะได้ฉลาด" ดังนั้น เมื่อพ่อรู้ว่าลูกมาอยู่ในพุงแม่แล้ว ก็จัดเพลงชุดใหญ่มาเลยคะลูก พ่อบอกว่า มันดีมากมาก มันคือ "Mozart music" โอ้โหลูกจ๋า แม่ฟังครั้งแรกออกอาการมึน งง และกังวลใจ "แม่ไม่รู้ว่าตอนที่ลูกได้ยินครั้งแรกจะอาการเหมือนแม่หรือเปล่า" มึน และ งง นี้เกิดจากการฟังเพลงไม่รู้เรื่อง ไม่รู้สึกว่ามันเพราะ(รสนิยมแม่คงจะไม่ถึงอะคะลูก) แล้วก็ส่งผลให้แม่รู้สึกกังวลว่า ลูกจะไม่ฉลาดเพราะแม่ฟังไม่รู้เรื่อง (ความคิดชั่ววูบโดยไม่ได้ไตร่ตรองถึงเหตุและผลก่อน) และแล้ว แม่ก็ลงทุนซื้อหูฟังอันเบ้อเร่อ ไม่ได้เอาไว้ฟังเองหรอกคะ เอาไว้แนบพุงให้ลูกฟัง อิอิ



ไม่นานนัก แม่ก็เกิดมีคำถามที่ว่า "แล้วลูกจะอารมณ์ดีได้อย่างไร ในเมื่อแม่ฟังเพลงที่แม่ไม่ชอบฟัง" และแล้ว แม่ก็เริ่มปฏิบัติการล้มเลิกการฟังเพลง Mozart มาฟังเพลงลูกทุ่ง ลูกกรุง และเพลงเก่าๆ สมัยแม่ยังสาว (เพราะร้องตามได้) สร้างความครื้นเครง สร้างรอยยิ้มให้แม่ได้ทุกวันเลยคะ โดยเฉพาะระหว่างทางที่แม่ขับรถ ไป-กลับ บ้านและที่ทำงาน(น่าจะมีคนทำวิจัย ผลจากการที่แม่ฟังเพลงลูกทุ่งว่าจะส่งผลให้ลูกมีไอคิวสูงขึ้นเท่าไรบ้างเนอะ)



เมื่อลูกอยู่ในพุงแม่ได้ประมาณ 4 เดือนกว่าๆ ในวันที่ 4 เมษายน 2551 เป็นวันที่ "ลูกดิ้น" เป็นครั้งแรกคะ แม่จำได้แม่นยำเลยทีเดียว เพราะลูกดิ้นตอนแม่กำลังแหกปากร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีอยู่กับ "เจ้าพาไป" ระหว่างการเดินทางกลับบ้าน แม่จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเพลงที่แม่กำลังร้องอยู่นั้นชื่อเพลง "เพื่อนกัน" ทุกครั้งที่แม่ร้องเพลง แม่มักจะร้องเพลงที่มีความหมายในชีวิตของแม่ หรือเพลงที่แม่รู้สึกดีเป็นพิเศษ และเมื่อแม่ร้องเพลงใดใด แม่ก็มักจะเล่าถึงที่มาที่ไปของเพลงนั้นให้ลูกฟังเสมอ ถึงแม้ว่าลูกจะอยู่ในพุงแม่ก็ตาม แต่พอโตขึ้นลูกส่งเสียงร้องเองได้ แม่ก็ต้องเป็นฝ่ายทึ่ฟังลูกบ้าง เพราะลูกฟังแม่มามากแล้วตั้งแต่อยู่ในพุงใช่ไหมคะ



เช่นเคยคะ ก่อนร้องเพลง "เพื่อนกัน" แม่เล่าความประทับใจที่เกิดขึ้นกับเพลงนี้ให้ลูกฟัง ลูกจำได้ไหมคะ (จำได้ก็แปลกแล้วเนอะ) "เพลงนี้เป็นเพลงที่พ่อและแม่ ร้องในงานแต่งงานของเรา ถึงแม้ว่าเพลงนี้จะชื่อว่าเพื่อนกัน แต่ถ้าลูกได้ฟังเนื้อหา พร้อมท้วงทำนอง ด้วยความใส่ใจแล้วล่ะก็ ลูกจะสัมผัสได้ว่า มันมากกว่าคำว่าเพื่อนกันจริงๆ"



และวันนี้ วันที่แม่ได้ยินลูกร้องเพลงให้แม่ฟังบ้าง ทำให้แม่นึกย้อนไปเมื่อสองปีก่อนที่แม่ก็ร้องเพลงให้ลูกฟังเช่นกัน (แล้วมันจะเกี่ยวข้องกันไหมนะ) แต่แม่ว่า มันคงจะมีสายสัมพันธ์บางอย่างที่เชื่อมประสานกันระหว่างการร้องเพลงของแม่ในวันนั้น กับการร้องเพลงของลูกในวันนี้ไม่มากก็น้อย



สายใยบางๆที่ถักทอขึ้นมาตั้งแต่วันแรกที่เราได้เรียนรู้กัน สายใยความผูกพันธ์ที่เกิดขึ้นนั้น จะหนาแน่นและคงทนขึ้นเรื่อยๆ และท้ายที่สุด สายใยแห่งรักที่แม่ถักทอด้วยแรงใจ ด้วยความรักที่มีต่อลูกผืนนี้ จะคอยห่มให้ลูกอบอุ่นและสุขใจตลอดไปนะคะลูกรัก





หมายเหตุ

เพลงของคุณลุง "เบิร์ดกับฮาร์ท"ทีแม่กล่าวถึงคะลูก เพลง "เพื่อนกัน"

อยากบอกให้รู้ ฉันคือคู่ยามเธอพลั้ง
จะคอยเป็นพลัง สร้างความหวังนั้นไว้
ขอเธอจงตระหนัก ที่รัก อย่าร้องไห้
ตราบที่สองหัวใจนี่ไง ยังสู้อยู่คู่เคียงกัน

จะเป็นผู้คุ้มครองตักเตือน ดังเช่นเพื่อนผู้หวังดี
ความหวั่นกลัวทั้งหลายที่มี บอกฉันซิบอกมา
หากวันใดพบเจอ ใครทำเก้อจงรู้ว่า
โว้ว โวว ขวัญตา ซบลงมาบนบ่าฉัน

รักนั้นเป็นอย่างไร ในหัวใจใครรู้บ้าง
หากไม่มีใครชี้ทาง คงอ้างว้างกว้างไกล
ฉันไม่ใช่นักปราชญ์ อาจพลาดเพราะรักได้
เธอจงโปรดเข้าใจ และขออย่าได้อำลา

จะเป็นผู้คุ้มครองตักเตือน ดังเช่นเพื่อนผู้หวังดี
ความหวั่นกลัวทั้งหลายที่มี บอกฉันซิบอกมา
หากวันใดพบเจอ ใครทำเก้อจงรู้ว่า
โว้ว โวว ขวัญตา ซบลงมาบนบ่าฉัน
โว้ว โวว ขวัญตา ซบลงมาบนบ่าฉัน

รักลูกมากนะคะ
จากแม่ตัวกลมๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น