วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

บันทึกถึงใยไหม ฉบับที่ ๕ "คำถามที่ไม่ต้องรอคำตอบ"


ถึงใยไหมลูกรัก วันนี้แม่กลับมาที่บ้านด้วยแรงที่่เหลือน้อยเต็มทน เพราะตั้งแต่วันอังคาร-พฤหัสบดีที่ผ่านมา แม่ต้องเดินทางไปประชุมในเมืองใหญ่ตลอด ออกบ้านแต่เช้า และกลับมาบ้านแทบไม่เหลือพลังเพื่อถ่ายทอดให้ลูกเลย และวันนี้เหมือนแม่จะไม่ค่อยสบาย แต่พอเห็นลูกวิ่งเข้ามาหา กอดแม่ และบอกว่า "ใยไหมรักแม่เจี๊ยบ" "คิดถึงเยอะแยะ" เพียงเท่านี้ พลังที่เกือบหมดกลับถูกเติมกลับเข้ามาด้วยคำพูดของลูกไม่กี่คำ ช่างเป็นเรื่องมหัสจรรย์จริงๆ



ลูกจ๋า วันนี้ลูกเริ่มมีเค้ารางของ "หนูจำมัย" มาเยือนแล้ว แม่พาลูกไปซื้อผลไม้หน้าหมู่บ้าน ลูกถามแม่ว่า "นี่ อะ ไร" แล้วชี้ไปยังผลไม้ทุกชนิดที่มีอยู่ในร้าน เมื่อแม่ตอบว่าผลไม้ที่ลูกถามมันเรียกว่าอะไรแล้ว แม่ก็จะย้อนถามลูกไปว่า "........สีอะไร" ลูกตอบถูก 99% เนื่องจากชมพู่บางลูกมันก็ดูเหมือนสีชมพู แต่บางลูกมันกลับดูเป็นสีแดงมากกว่า(อันนี้แม่เข้าใจคะ เพราะแม่ก็ยังสับสนเหมือนกันที่จะบอกลูกว่าชมพู่มันสีอะไร) กว่าจะซื้อผลไม้เสร็จ แม่ค้าหน้าเขียวเลย เพราะแม่ซื้อช้านั่นเอง



จากเหตุการณ์ในวันนี้ ทำให้แม่ตระหนักดีว่า สักวันหนึ่ง ลูกคงจะนึกถามถึงที่มาที่ไปของลูกเองว่า หนูเกิดมาเมื่อไหร่? ทำไม? และเมื่อถึงเวลานั้น แม่เองคงตั้งลำไม่ทัน ที่จะตอบคำถาม ที่มันรู้อยู่แก่ใจแต่ไม่รู้จะพูดอย่างไร



ด้วยความกลัวของแม่ แม่จึงต้องฝึกทำข้อสอบข้อนี้ซะก่อน เพราะแม่ได้ทำการเก็งข้อสอบแล้วว่า ต้องมีสักวันที่ข้อสอบเช่นนี้ จะออกสอบจนได้



ลูกเกิดมาเมื่อไหร่นั้นง่ายมากสำหรับแม่ "ลูกเกิดมาเมื่อเก้าเดือนก่อนวันเกิดของลูก นั่นหมายถึง ประมาณเดือน พฤศจิกายน 2551 วันแรกที่แม่รู้ว่ามีลูก แม่ยอมรับว่า สับสน เป็นกังวล จะเรียกว่าดีใจไหม ก็ไม่ใช่ จะว่าเสียใจไหม ก็ไม่เชิง วินาทีนั้น จำได้ว่าร้องไห้เลยแหละ เพราะแม่หมดหวังไปแล้วกับการมีลูก เพราะแม่ตั้งใจว่าจะมีลูกเลยตั้งแต่แต่งงานกับพ่อ แต่ก็นั่นแหละ หนึ่งปีผ่านไปก็ไม่มีวี่แววเลย และแม่ก็มีเป้าหมายใหม่ในการเรียนต่อปริญญาเอกด้วยเช่นกัน เมื่อตั้งสติ และกลับมา ณ ปัจจุบัน ณ จุดที่ยืนอยู่ แม่กลับมีสติขึ้นมาอีกครั้งว่าทำไมแม่ต้องรู้สึกเช่นนี้ แม่ต้องดีใจให้มากสิ เพราะนี้คือสิ่งที่แม่รอคอยมาเกือบปีแล้ว และแล้ว แม่ก็ยิ้มอย่างอิ่มสุข พร้อมหัวใจที่พองโต และกอดพ่อของลูก และขอบคุณลูกมากที่มาอยู่กับเราทั้งสองคน"



ทำไมลูกถึงเกิดมาบนโลกใบนี้ "เป็นคำถามที่มีคำตอบได้หลากหลายมาก แต่ถ้าให้แม่ตอบล่ะก็ แม่อยากตอบว่า เพราะลูกจะต้องเกิดมาเป็นครูให้พ่อและแม่ ได้เรียนรู้โลกใบนี้ว่า การที่คนคนหนึ่ง จะโตขึ้นมาและใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ให้นานที่สุดและสุขที่สุดได้อย่างไร โจทย์ใหญ่สำหรับแม่ไม่ใช่การที่จะให้ลูกมีอายุยืนยาวที่สุด เพราะแม่ตระหนักดีว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ระหว่างการเกิดขึ้น และตั้งอยู่นั้น จะอยู่อย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด คุ้มค่าในที่นี้ แม่หมายความว่า ได้รู้จักโลกใบนี้อย่างมีสติ และเข้าใจถึงความเป็นไปต่างๆ เรียนรู้ที่จะจัดการกับความทุกข์ แลเรียนรู้ที่จะอยู่กับความสุขอย่างไม่ประมาท



นับตั้งแต่นั่นมา แม่เริ่มเรียนรู้กับครูตัวน้อยๆ ที่ยังเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของแม่อยู่ ลูกโตขึ้นทุกวัน และได้สร้างโจทย์ที่ต้องคอยหาคำตอบได้ทุกวัน เช่นกัน แล้วแม่จะเล่าให้ฟังในฉบับต่อไปนะจ๊ะ



วันนี้ แม่ได้ตอบคำถามให้ลูกแล้ว วันใดที่ลูกต้องการคำตอบ แม่อาจจะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้เพื่อคอยตอบคำถามของลูกก็ได้ แต่รับรองเมื่อลูกได้อ่าน ลูกก็จะได้คำตอบที่ตรงใจแม่ที่สุด เพราะนี่เป็นคำตอบที่แม่อยากให้ลูกรับรู้



แม่รักลูกมากนะคะ
จากแม่ตัวกลมๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น