วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

บันทึกถึงใยไหม ฉบับที่ ๖ "ไม่มีเวลาสอนลูกหรือจะคอยสอนลูกตอนมีเวลา"



ใยไหมลูกรัก วันนี้แม่มีโอกาสได้ใช้เวลาในช่วงเช้าก่อนออกเดินทางไปทำงานกับลูก มากกว่าทุกวันที่ผ่านมา (วันทำงาน) ลูกตื่นมาพร้อมกับวลีใหม่ๆ ลูกบอกแม่ว่า "ใยไหมอยู่กับคุณแม่" แอบยิ้มมุมปากน้อยๆ "ให้คุณตากับคุณยายไปทำงาน" อ้าว! ซะงั้น (ลูกแม่เป็นอะไรไป แม่..งง เขียนห่างกันหน่อยเดี๋ยวลูกอ่านลำบากความหมายจะเพี้ยนคะ) สงสัยฝันร้ายว่าแม่หายหรือเปล่านะ (แม่คิดเองคะ)


แล้วแม่ก็พาลูกเดินออกกำลังกายตอนเช้าก่อนอาบน้ำ แม่จูงมือลูกที่นุ่มนิ่มและค่อยๆเดิน คอยระวังไม่ให้ลูกล้ม เพราะกลัวลูกเจ็บ แต่แล้ว พอลูกเจอเต่าบ้านคุณป้านุชข้างบ้านเท่านั้นแหละ วิ่งอย่างกับจะไปกินเต่า (ไม่ใช่กินตับนะลูก) บ้านป้านุชมีเต่าอยู่สองตัว อะไรแม่มิอาจทราบได้ รู้แต่เพียงว่า เป็นเต่าบก มิใช่เต่าทะเล เพราะมันหดหัวและขาเข้าไปในกระดองได้คะลูก (แต่ถ้าลูกเห็นรูปแล้วรู้ว่าพันธุ์อะไรอย่าลืมบอกแม่ด้วยนะคะ)



แม่จ้องหน้าลูก ที่มีแววตาครุ่นคิด คิ้วชนกันเล็กน้อยถึงปานกลาง เอียงหัวนิดหน่อย จ้องมองเต่าทั้งสองตัวโดยไม่กระพริบตาเลย อย่างน้อยก็ประมาณ 20 วินาที ที่แม่จ้องลูกอยู่เช่นกัน ลูกมักจะแสดงอาการเช่นนี้ในกรณีที่เจอสิ่งที่ไม่เคยรู้จัก แน่นอนจ้าลูก ลูกรู้จักเต่าแน่นอน แต่แม่เชื่อว่า ลูกไม่เคยเห็นเต่าตัวเล็ก และลวดลายเช่นนี้ แถมยังได้สัมผัสถึงกระดองอันแข็งแรง และไม่ราบเรียบอย่างที่คิด รวมถึง มันมาอยู่ทำไมที่ในกะละมังอันนี้ ใช่ไหมคะลูก



แม่เอ่ยถามคำถามทบทวนความจำลูกในทันที โดยไม่ให้ลูกตั้งตัว

๑. เต่ากินอะไรคะลูก "กิน ผัก บุ้ง"

๒. แล้วไหนหัวเต่าคะลูก "เต่าตายแล้วแม่ ไม่มีหัว" (ความจริงเต่าหดอยู่ในกระดองเพราะใยไหมเคาะกระดองเล่นอยู่)

๓. แล้วมีอะไรอยู่ในกะละมังบ้านเต่าอีกคะลูก "ก้อนหิน เยอะแยะเลย"

๔. (เข้าโหมดเรื่องสีสัน) ผักบุ้ง สีอะไรคะลูก "สีเขียวไงแม่ แม่เห็นป่าวง่ะ" (อ้าว ไม่น่าถามเลย จำเป็นต้องตอบว่า เห็นคะลูก) ลูกคงอยากถามแม่ว่า แล้วแม่จะถามทำไมคะ

๕. กะละมังบ้านเต่า สีอะไรคะ "สีฟ้าคะ" (จริงแล้วเป็นสีน้ำเงินคะ แต่ลูกคงแยกยากเพราะไม่มีสีฟ้าจริงๆมาเปรียบเทียบให้เห็น อันนี้แม่เข้าใจ และไม่บอกลูกว่าถูกหรือผิด)

๖. แล้วหินในกะละมังสีอะไรคะลูก "สีขาว สีน้ำตาลด้วย" (ใช่คะ มันมีสองสีจริงๆ)

๗. แล้วเต่าล่ะคะสีอะไร ไม่มีคำตอบใดใดหลุดออกจากปากลูก แต่ลูกกลับพูดว่า "แล้วเต่าสีอะไร" พร้อมกับเคาะกระดองเต่าอย่างแรง เต่าหดหัวแทบไม่ทันเลยคะ แม่ต้องรีบห้ามก่อนเจ้าของเต่าจะเห็น

๘. เต่าอายุเท่าไหร่ "ยืนไงแม่" (แม่..งง ไปเกือบหนึ่งวิ นึกขึ้นได้ว่า ในการ์ตูนเรื่อง NEMO บอกว่าเต่ามีอายุยืน ถึง 150 ปี แต่ลูกคงไม่อาจเก่งกาจจำได้ทั้งหมด เลยบอกแม่ได้เพียงว่า "ยืนไงแม่" ขอบคุณคะลูก)



แม่ไม่อาจตั้งคำถามใดใดได้อีก เพราะกลัวคำตอบที่มันจะทำให้แม่ "คาดไม่ถึง" และนั่งงง อึ้งเหมือนคำตอบข้อสุดท้าย

แม่ได้สอนวิธีการช่วยเหลือเต่าทุกประเภทให้ลูกไว้ว่า "เมื่อลูกเห็นเต่าหงายท้องอยู่ ณ ที่แห่งใดก็ตาม พึงตระหนักไว้ว่า เป็นช่วงเวลาที่วิกฤตที่สุดของมัน เพราะมันจะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย ทั้งเรื่องการเดิน การกิน การหลบภัย ฯลฯ และสุดท้าย เมื่อมันยังหงายท้องอยู่เช่นนั้นต่อไป มันก็จะต้องตายไปในที่สุด ลูกช่วยเต่าได้แน่นอนคะ (แม่รู้ว่าลูกอยากช่วย) ง่ายมากคะลูก จับตัวมันด้วยมือทั้งสองข้างที่แข็งแรงของลูก อย่างมั่นคง ค่อยๆคว่ำตัวมันลงมาให้กลับสู่สภาพปกติ และนำมันไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย เพียงเท่านี้ลูกก็ช่วยให้เต่าอายุยืนได้แล้วคะ"



เพียงช่วงเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง กับการสนทนากับลูกในเรื่องของ "เต่าเต่าและก็เต่า" ก็ทำให้แม่ได้เรียนรู้ว่า

"เราไม่ต้องโหยหาที่จะได้อยู่กับลูกตลอดเวลา เพียงเพื่อจะได้สอนลูกให้เต็มที่ดั่งใจคิด ขอเพียงแค่หมั่นสังเกต โอกาสที่มีในแต่ละวัน เพื่อใช้โอกาสนั้น ทำในสิ่งที่ตั้งใจ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว"



ก่อนกลับ ลูกบอกแม่ว่า "แม่เจี๊ยบ แมลงวันกินเต่า" แม่มองอย่างตั้งใจ เห็นแมลงวันตัวหนึ่ง กำลังกินเต่า เอ๊ยไม่ใช่ เกาะหลังเต่าอยู่

แม่บอกลูกเพียงว่า กระดองเต่าแข็งไหมคะลูก "แข็งคะ"

แมลงวันมีฟันไหมลูก (ลูกทำหน้างง)

ระหว่างเต่ากับแมลงวัน ใครตัวใหญ่กว่ากัน "เต่าตัวหย่ายยยยยยยย"

แล้วเต่าจะกินแมลงวัน หรือ แมลงวันจะกินเต่าคะลูก (แม่พูดเพียงเท่านี้ แล้วก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ที่ทำให้ลูกแม่..งงงงงงงงงงงง บ้าง)



ความสุขเล็กๆน้อยของแม่คะลูก
จากแม่ตัวตัวกลมๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น