วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การเดินทางของห้วยกระเจา สู่ตำบลสุขภาวะ


การเดินทางของห้วยกระเจา สู่ตำบลสุขภาวะ
จุฑารัตน์ กองแก้ว


โดยส่วนตัวของผู้เล่า... ชอบการท่องเที่ยวมากๆถึงมากที่สุด และจังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งที่ผู้เขียนชอบมาท่องเที่ยวเช่นกัน เนื่องจากกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมงและยังมีความหลากหลายทางกายภาพ ภูมิศาสตร์ สังคม และวัฒนธรรม เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือน และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผู้เขียนได้ไปทำงานในจังหวัดกาญจนบุรี  จึงอยากถ่ายทอดเรื่องราวของตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ให้กับผู้อ่านได้ทราบ...
เดินทางออกจากโรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อมุ่งหน้าไปที่ อบต.ห้วยกระเจาเพื่อไปพบกับปลัด อบต. เจ้าหน้าที่ อบต. ที่เป็นผู้ดูแลโครงการตำบลสุขภาวะ และชาวบ้านอีก 1 ท่าน ซึ่งขณะนั้นผู้เขียนยังไม่ทราบว่าเป็นใคร? พอไปถึง อบต. ก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่ง ท่าทางเป็นมิตร ดูเป็นคนอารมณ์ดี ออกมาต้อนรับเรา และเธอได้แนะนำตัวเองว่าชื่อ พร ทำงานตำแหน่งธุรการ ซึ่งเป็นผู้ที่ดูแลโครงการตำบลสุขภาวะของตำบลห้วยกระเจา และคุณพรก็ได้เล่ารายละเอียดโครงการให้เราฟัง... ตำบลห้วยกระเจาเป็นลูกข่ายของตำบลบางระกำ จังหวัดนครปฐม ดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2554 ได้มีการปรับปรุงเรื่องขยะในชุมชน การสนับสนุนการเลี้ยงหมูหลุม ไก่พื้นเมือง ฯลฯ ...ขณะที่เรากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น...ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา รูปร่างสันทัด ผิวเข้ม เป็นคนมุ่งมั่น และเอาจริงเอาจังกับการทำงาน คุณพรแนะนำว่า ชื่อคุณประจวบ ทวีสิน เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 เราก็กล่าวสวัสดีพร้อมกับยกมือไหว้ คุณประจวบก็ได้เล่าให้เราฟังว่า... ที่รู้จักโครงการตำบลสุขภาวะจากคุณป้าทิวาพร(ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติท่ามะขาม จังหวัดกาญจนบุรี) ก็เลยสนใจอยากจะทำโครงการนี้ คุณประจวบจึงได้นำโครงการนี้มาเสนอกับ อบต. ซึ่ง อบต.ก็ได้สนับสนุนเนื่องจากเล็งเห็นว่าชุมชนมีศักยภาพที่จะทำโครงการได้ คุณประจวบยังเล่าให้ฟังอีกว่า ที่หมู่ 1 มีเครือข่ายปลูกผักปลอดสารพิษ จำหน่ายในชุมชน ส่วนหมู่ 7 เลี้ยงหมูหลุม กลุ่มไก่พื้นเมือง(ปัจจุบันคนหันมาเลี้ยงหมูหลุมกันเยอะขึ้น เนื่องจากหมูหลุมจะไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นมูลหมู) ที่ห้วยกระเจายังเป็นศูนย์การเรียนรู้ศึกษาดูงานการเลี้ยงหมูหลุม นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องการเลี้ยงหมูหลุมแล้ว สมาชิกให้ห้วยกระเจายังได้ไปดูงานศึกษาดูงานการเลี้ยงจิ้งหรีดที่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งคุณประจวบบอกว่า...ขณะนี้สมาชิกในหมู่บ้านกำลังจะเริ่มเลี้ยงจิ้งหรีดไว้ขายเพื่อเพิ่มรายได้กันแล้ว
...นอกจากนี้ ยังมีการทำปศุสัตว์โดยเฉพาะ การเลี้ยงโคพื้นเมือง  มีจำนวนมากถึง  27,959 ตัว  ซึ่งถือว่าเป็นตำบลที่มีจำนวนโคมากที่สุดในประเทศไทย
ผู้เขียนได้ยินประโยคหนึ่งที่คุณประจวบได้พูดขึ้น “ตู้เย็นข้างครัว ตู้ยาข้างบ้าน” ทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่าเราสามารถทำให้รอบๆบ้านของเราเป็นทั้งตู้เย็นและตู้ยาได้ เป็นตู้เย็น...จากการปลูกผักไว้กินเองแถมได้สุขภาพที่ดีตามมาด้วย(เพราะไม่มีสารพิษ) เป็นตู้ยา...ได้จากการปลูกสมุนไพรพื้นบ้านไว้ใช้เอง
 จากการได้พูดคุยให้ครั้งนี้ผู้เขียนรู้สึกและรับรู้ถึงพลังงานและความตั้งใจทำงานของผู้ใหญ่ประจวบคนนี้เป็นอย่างมาก... ในนามของผู้เขียนเองอยากให้กำลังใจผู้ใหญ่ประจวบและสมาชิกชาวห้วยกระเจาทุกท่าน ผู้เขียนหวังว่าจะได้มีโอกาสไปเยือนหมู่บ้านหมูหลุม(ห้วยกระเจา)แห่งนี้อีกครั้งในคราวต่อไป...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น